เฟรเดอริก แกรนท์ แบนติง (
อังกฤษ: Sir Frederick Grant Banting, KBE, MC, MD, FRSC -
14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2434 –
21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484)
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชาวแคนาดา และผู้ได้รับ
รางวัลโนเบลจากการร่วมเป็นผู้ค้นพบ
อินซูลินแบนติงเกิดที่เมืองอัลลิสตัน
รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา หลังจบการศึกษาจาก
มหาวิทยาลัยโทรอนโตเมื่อ
พ.ศ. 2459 ได้เข้ารับราชการทหารหน่วยการแพทย์ระหว่าง
สงครามโลกครั้งที่ 1 และได้รับไม้กางเขนระหว่างสงคราม หลังสงครามได้กลับประเทศและเข้ารับการฝึกหัดเป็น
ศัลยแพทย์กระดูกที่
โรงพยาบาลเด็กใน
โทรอนโตระหว่างปี
พ.ศ. 2462 -
พ.ศ. 2463 และในฤดูร้อนปีนั้น แบนติงได้ไปทำงานเป็นแพทย์ในมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออนแทรีโอ ในขณะที่กำลังอ่านบทความจากวารสารการแพทย์ เขาได้บันทึกความคิดเกี่ยวกับวิธีการแยกสารหลั่งภายในของ
ตับอ่อน ซึ่งจะเป็นขั้นตอนสำคัญมากที่จะช่วยให้การรักษา
โรคเบาหวานที่ได้ผล ซึ่งในขั้นนี้เองที่ขั้นตอนทั้งหมดที่เคยทำกันมาเพื่อแยกสารเพื่อให้แก่คนไข้ล้มเหลวมาโดยตลอด ด้วยความที่แบนติงไม่ค่อยชอบการทำงานเป็นแพทย์ แต่มีความสนใจตื่นเต้นกับความคิดนี้มาก เขาจึงย้ายจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออนแทรีโอ ไปยัง
มหาวิทยาลัยโทรอนโต โดยได้เริ่มงานวิจัยเมื่อวันที่
17 พฤษภาคม พ.ศ. 2464 ภายใต้การดูแลของศาสตราจารย์จอห์น แมคลอยด์ แบนติงได้รับมอบนักศึกษาปริญญาโทคนหนึ่งให้มาเป็นผู้ช่วย คือ
ชาร์ล เบสแบนติงได้ทำการทดลองอย่างหนัก โดยการผ่าตัด
สุนัขเพื่อมัดท่อตับอ่อน เพื่อทำให้เกิดการฝ่อบางส่วนแล้วจึงตัดเอาตับอ่อนออกในสัปดาห์ต่อมา โดยหวังว่าตับอ่อนจะมีสารหลั่งที่สะอาด เข้มข้นและไม่ปนเปื้อน จากนั้นจะทำการสะกัดไปรักษาสุนัขที่ป่วยเป็นเบาหวานโดยการรักษาด้วยการลด
น้ำตาลใน
เลือดเพื่อดูว่าจะได้ผลหรือไม่หลายเดือนต่อมา ดูเหมือนว่าวิธีการของแบนติงจะได้ผลเนื่องจากเขาสามารถทำให้สุนัขมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการลดระดับน้ำตาลในเลือดลง และได้รีบรายงานให้แมคลอยด์ได้รับทราบ ยังมีข้อสงสัยว่าวิธีของแบนติงยังหยาบและไม่ได้ผลจริง ต่อมา จากการเข้าลงมือร่วมวิจัยโดยตรงของแมคลอยด์และ
นักเคมีชื่อ
เจมส์ คอลลิบ พบว่าการใช้ตับอ่อนของสุนัขได้ผลในทางปฏิบัติ จึงย้ายไปทำกับ
ลูกวัวและ
วัว เทคนิคการผูกท่อตับอ่อนถูกยกเลิกไป หันมาใช้วิธีสกัดที่ได้ผลดีในตับธรรมดาที่ไม่ต้องมัดท่อ และเรียกสารที่สกัดได้นี้ในระหว่าง พ.ศ. 2464-2465 ว่า "
อินซูลิน"การกระทำนี้ได้รับการสรรเสิญว่าเป็นความก้าวหน้าสูงสุดในยุคนั้น ไม่เพียงการค้นพบเพียงอินซูลิน แต่ยังสามารถทำการผลิตเป็นจำนวนมากในเวลานับได้เป็นเดือนเท่านั้น เรียกได้ว่าสามารถช่วยชีวิตคนนับล้านทั่วโลกที่ป่วยจาก
โรคต่อมไร้ท่อและ
โรคเบาหวานซึ่งไม่สามารถรักษาและ
พยากรณ์โรคในขณะนั้นได้ทันที ผู้ป่วยจากปัญหาการเผาผลาญ
ไขมันและ
โปรตีนซึ่งนำไปสู่
การตาบอดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา สามารถรับการรักษาได้ตั้งแต่เริ่มเป็นโรค
แบนติง และ แมคลอยด์ ได้รับ
รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ แบนติงได้แบ่งเงินรางวัลให้เบสท์ เพราะเชื่อว่าเบสท์สมควรได้รับรางวัลมากกว่าแมคลอยด์ ผู้ซึ่งต่อมาก็ได้แบ่งเงินรางวัลให้แก่คอลลิบด้วยเช่นกัน แบนติงได้สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ชาวแคนาดาเป็นอันมาก เนื่องจากเขาเป็นบุคคลแรกที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกให้แก่แคนาดา รัฐบาลแคนาดาได้สนับสนุนเงินวิจัยแก่แบนติงไปตลอดชีวิต ในปี
พ.ศ. 2477 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักรได้พระราชทาน
บรรดาศักดิ์ชั้นเซอร์แก่แบนติงเป็น
เซอร์ เฟรเดอริก แบนติง